ด้วยอากาศเมืองไทยบ้านเราพอถึงฤดูร้อนก็ร้อนแบบไม่ปราณีใคร และสภาพความร้อนตอนนี้ก็ร้อนขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนหลายเท่าตัว ด้วยหลายปัจจัยที่มีมากขึ้นในบ้านเมืองของเราตอนนี้ ดังนั้นทุกครอบครัวก็ต้องมีตัวช่วยดีๆ ที่จะช่วยคนที่คุณรักรู้สึกดีผ่อนคลายเน็นสบายในสภาพที่ร้อนระอุแบบนี้

วันนี้ baanbaan จะมาบอกเคล็ดลับพิเศษรวมถึงเทคนิคดีๆ ในการเลือกสรร “เครื่องปรับอากาศ” หรือแอร์ ในช่วงหน้าร้อน เลือกแบบไหนถึงจะประหยัดใช้กันแบบยาวๆ ต้องดูที่อะไรบ้าง

เลือกแอร์ที่ประหยัดไฟต้องเลือกแอร์ให้เหมาะสถานที่ที่จะติดตั้ง

และการเลือกแอร์ควรเลือกให้เหมาะสมตามลักษณะการใช้งาน และไม่ควรใช้แอร์แบบผิดประเภท เพราะจะทำให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและใช้พลังงานเยอะกว่าเดิมเรียกง่ายๆ คือทำให้เปลืองไฟมากกว่าปกติ ซึ่งประเภทของการใช้งานแอร์มี 5 รูปแบบดังนี้ ตามมาดูกันครับ

แอร์สำหรับติดผนัง

เป็นประเภทแอร์ที่คนนิยมใช้กันมาในปัจุบัน มีหลายรูปแบบและดีไซน์สวย ตามของแต่ละยี่ห้อที่ผลิต แต่ละรุ่นก็มีความแตกต่างกันออกไป มีหลายขนาดที่เหมาะสำหรับทุกๆ พื้นที่แถมยังติดตั้งง่าย ได้ทุกพื้นที่ เหมาะสำหรับ ห้องนอน ห้องทำงาน คอนโด หรือห้องตามประสงค์การใช้งาน

แอร์แขวนใต้ฝ้า

เป็นแอร์รูปทรงแบนขนาดใหญ่และแขวนอยู่ติดกับฝ้า มีความแรงและเย็นฉ่ำกว่าแอร์ผนัง พร้อมทั้งมีหลากหลายขนาดให้เลือก เป็นแอร์ที่เหมาะสำหรับติดตั้งห้องขนาดใหญ่ สำนักงาน ร้านอาหาร ห้องประชุม หรือห้องที่มีขนาดกว้างๆ ตามจุดประสงค์ที่ต้องการใช้งาน เป็นแอร์ที่มีคุณภาพสูง เย็นฉ่ำ ลมแรงและไกล

แอร์แบบ 4 ทิศทาง

ประเภทของแอร์ 4 ทิศทางดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูเรียบหรู ทันสมัยแล้ว และสำหรับตัวแอร์ 4 ทิศทางเองยังมีความโดดเด่นในด้านประสิทธิภาพที่เต็มไปด้วยศักยภาพเฉพาะตัวและมีความเหนือกว่าแอร์ประเภทอื่นเพราะมีความสามารถในการกระจายลมได้เป็นอย่างดี ตำแหน่งในการติดตั้งทิศทางแอร์แบบ 4 ทิศทางคนส่วนใหญ่ติดตั้งเอาไว้ที่ใจกลางห้องเพราะจะทำให้แอร์กระจายไปรอบๆ ห้องได้อย่างสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับออฟฟิศ สำนักงาน ร้านอาหาร ที่มีขนาดใหญ่ๆ

แอร์ฝังเพดาน

เป็นแอร์ที่ติดตั้งและฝังลงไปบริเวณฝ้าหรือเพดานห้อง มีความโดดเด่นรูปร่างสวยงาม ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูและการฝังซ่อนใต้ฝ้าทำให้ตัวเครื่องดูกลมกลืนกับห้องมากกว่าแอร์ชนิดอื่นๆ สามารถนำไปติดตั้งได้อย่างอเนกประสงค์ ช่วยให้การกระจายลมได้หลากหลายทิศทาง ไม่มีเสียงรบกวน ทนทานต่อไฟตก ไฟเกิน การกระจายลม ที่สามารถทำได้ตั้งแต่ 4 ทิศทางไปจนถึงรอบทิศทางแบบ 360 องศา

แอร์ตั้งพื้น

เป็นแอร์ประเภทที่ต่างจากประเภทอื่นๆ เหมาะสำหรับการเคลื่อนที่และจะเป็นแอร์ที่วางอยู่บนพื้นมีความพิเศษกว่าแอร์ตัวอื่นๆ คือพกพาง่าย ไปด้วยได้ทุกพื้นที่และสามารถถอดออกมาทำความสะอาดง่าย แต่มีข้อเสียคือถ้าวางไว้ในห้องกว้างๆ ก็จะสามารถทำให้แอร์เย็นไม่ทั่วถึงต้องวางไว้ในห้องเเคบๆ หรือเป็นที่นิยมกันคือพกพาไปเเคมป์ปิ้งกางเต้นท์

ต้องเลือก BTU แอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้องของคุณ

การเลือกแอร์เข้าห้องที่ต้องการใช้งาน ต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ที่ต้องการ เพราะจะทำให้ประหยัดไฟ ถ้าเลือกแอร์ที่ไม่เหามะสมกับขนาดก็จะทำให้เปลืองไฟจนเกินเหตุ เพราะอากาศร้อนๆ แบบนี้ทุกครอบครัวต้องเปิดแอร์กันทั้งวันอย่างแน่นอน

สูตรคำนวณค่า BTU กับพื้นที่ห้องที่ต้องการติดแอร์แบบง่ายๆ

ค่า BTU = พื้นที่ของห้อง (ขนาดกว้าง x ยาว) x ระดับความแตกต่าง

ระดับความแตกต่าง คือ ระดับความร้อนช่วงเวลากลางวันและกลางคืนห้องที่ใช้ตอนกลางวัน มีระดับความต่างประมาณ 800 ห้องที่ใช้เฉพาะเวลากลางคืน มีระดับความต่างประมาณ 700

ต้องเลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ติดดาว แอร์ที่มีค่า EER/SEER สูง

EER หรือย่อมาจาก Energy Efficiency Ratio เป็นค่าวัดประสิทธิภาพค่าที่ใช้วัดสมรรถนะสำหรับเพื่อการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศในการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศ

SEER ย่อมาจาก Seasonal Energy Efficiency Ratio เป็นค่าที่ใช้สำหรับวัดประสิทธิภาพของการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศตามฤดูกาล ซึ่งในการวัดนี้จะใช้การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิมาเป็นตัวพิจารณาร่วมด้วย

สำหรับแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นแอร์ที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพกระประหยัดพลังงานตามมาตรฐานของ กฟผ.และกระทรวงพลังงานที่การันตีแล้วว่าประหยัดไฟได้จริง ยิ่งดาวเยอะยิ่งประหยัดไฟเยอะ ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่าซื้อแอร์ที่ประหยัดไฟเบอร์ 5 ประหยัดพลังงานได้อย่างแท้จริง

สรุปง่ายๆ นอกจากเพื่อนๆ จะเลือกแอร์ที่มีรูปลักษณ์สวยและตรงตามพื้นที่การใช้งานแล้ว เพื่อนๆ ก็ต้องเลือกแอร์ที่ประหยัดไฟด้วย และอย่าลืมคำนวณพื้นที่ของขนาดห้องที่ต้องการติดแอร์ให้แม่นยำด้วยนะครับ ทางที่ดีจะเลือกติดแอร์ก็ปรึกษาผู้เชียวชาญทางด้านแอร์ หรือร้านแอร์ดีกว่าครับจะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง

เคล็ดลับเลือกซื้อ “แอร์” ยังไงให้ประหยัดไฟ ต้องดูที่อะไรบ้าง ?

Tags: