มาตรการรัฐ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนในการซื้อบ้านเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ดอกเบี้ยบ้านเพิ่มสูงขึ้นก็ยังมาตรการรัฐที่ช่วยให้เงินในกระเป๋าเหลือตกแต่งบ้านได้เพิ่มอีก ใครที่กำลังคิดซื้อบ้านหรือสังหาฯ อื่นๆ ช่วงนี้ต้องรีบเลย

สรุปมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ

1. มาตรการลดค่าโอนและจดจำนองอสังหาฯ

มาตรการรัฐที่เกิดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาฯ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 มาจนถึงปี 2566 ในปัจจุบันรัฐบาลยังคงเดินหน้าต่อมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยต่อไป เพื่อกระตุ้นการซื้อบ้านให้ขยายตัวมากขึ้น

ลดค่าธรรมเนียมการโอนบ้านและคอนโด ราคาไม่เกิน 3 ล้าน จาก 2% เหลือเพียง 1%
ลดค่าจดจำนองบ้านและคอนโด ลดลงจาก 1% เหลือเพียง 0.01%

2. ปรับเปลี่ยนมาตรการ LTV

มาตรการที่ภาครัฐออกมาเพื่อคัดคุณภาพของผู้ยื่นขอสินเชื่อ ลดความเสี่ยงให้กับทางธนาคารพาณิชย์ โดยเป็นการตีกรอบสัดส่วนเงินกู้ต่อมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เราซื้อ ไม่ให้อัตราเงินกู้ของเรานั้นสูงจนเกินไป ทำให้ผู้ซื้อบ้านราคาสูงหรือซื้อหลายหลังต้องเพิ่มจำนวนเงินดาวน์มากขึ้น

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดมาตรการ LTV ขึ้นมา เพื่อลดอัตราความเสี่ยงให้กับธนาคารพาณิชย์ โดย LTV ย่อมาจากคำว่า “Loan to Value” ซึ่งหมายถึง อัตราส่วนการให้สินเชื่อซื้อบ้านโดยเทียบกับมูลค่า

ราคาบ้าน: บ้านราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท

สัญญาที่ 1: สามารถกู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน
สัญญาที่ 2: วางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10% หากผ่อนสัญญาที่ 1 มากกว่าหรือเท่ากับ 2 ปี (เดิม 3 ปี)
วางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 20% หากผ่อนสัญญาที่ 1 น้อยกว่า 2 ปี (เดิม 3 ปี)
สัญญาที่ 3: วางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 30%

ราคาบ้าน: บ้านราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท

สัญญาที่ 1: วางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10% (เดิม 20%)
สัญญาที่ 2: วางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 20%
สัญญาที่ 3: วางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 30%

3. คงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจนถึงปี 66

ปี 2563 ครม. ได้มีการปรับลดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างถึง 90% และตั้งแต่นั้นมาจนถึงปี 2566 ก็ยังคงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอัตราเดิมอยู่ ก่อนที่จะปรับขึ้นในปี 2567 โดยมีรายละเอียดดังนี้

อัตราภาษีเจ้าของที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง

เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง

ขอบคุณข้อมูลจาก : แสนสิริ

โค้งสุดท้าย ! มาตรการรัฐต่ออายุช่วยคนซื้อบ้าน ลดค่าโอนและดอกเบี้ยถูก

Tags: