ขึ้นชื่อว่าที่อยู่อาศัย นอกเหนือจากบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมแล้ว ยังมีบ้านอีกประเภทหนึ่งที่เราเรียกว่า “อาคารพาณิชย์” ซึ่งมีคนใช้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและทำการค้า เป็นประเภทบ้านที่มีคนอาศัยอยู่ไม่น้อย ซึ่งหากใครคิดที่จะซื้ออาคารพาณิชย์แล้วล่ะก็ จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงข้อกฎหมายที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เลยค่ะ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำข้อควรรู้ก่อนซื้ออาคารพาณิชย์ ที่ต้องบอกเลยว่าถ้าใครพลาดไป อาจจะตกหล่นเรื่องที่จำเป็นแน่นอน

อาคารพาณิชย์คืออะไร

ตาม กฎกระทรวงฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ข้อ 1 ให้นิยามคำว่า อาคารพาณิชย์ ไว้ว่า “อาคารที่ใช้ประโยชน์ในการพาณิชยกรรม หรือบริการธุรกิจ หรืออุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังการผลิตเทียบได้น้อยกว่า 5 แรงม้า และให้หมายรวมถึงอาคารอื่นใดที่ก่อสร้างห่างจากถนนหรือทางสาธารณะไม่เกิน 20 เมตร ซึ่งอาจใช้เป็นอาคารเพื่อประโยชน์ในการพาณิชยกรรมได้” หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คืออาคารพาณิชย์เป็นอาคารที่มีไว้ใช้ในเชิงพาณิชย์ ประกอบกิจการธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการค้าขาย บริการ หรืออุตสาหกรรม ซึ่งกำหนดให้สามารถมีพื้นที่ใช้สอยได้มากกว่าบ้านนั่นเอง

อาคารพาณิชย์แตกต่างจากตึกแถวอย่างไร

หลายคนแยกไม่ออกหรือไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วอาคารพาณิชย์เหมือนหรือแตกต่างจากตึกแถวอย่างไร ซึ่งหากลองเปรียบเทียบกันตามกฎหมายอาคารหรือกฎหมายที่อยู่อาศัยก็อาจจะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก โดย
อาคารพาณิชย์จะสร้างขึ้นในระยะที่ห่างจากถนนมากนัก ใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นหลัก ในกรณีที่เป็นที่อยู่อาศัยติดถนนสามารถเป็นอาคารพาณิชย์ได้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งอาคารพาณิชย์และตึกแถวมักติดถนนใหญ่ทำให้ราคามักจะสูงมาก ด้วยราคาที่ดินแต่ก็แลกมาด้วยอาคารที่เพื่อน ๆ อาจจะสามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการอยู่อาศัย แต่อย่าลืมวางแผนเรื่องการจอดรถด้วย เพราะหลายแห่งมักประสบปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่

ข้อดีของอาคารพาณิชย์

มีโอกาสในการประกอบธุรกิจมากกว่าบ้านประเภทอื่น
อัตราขยับมูลค่าขึ้นได้ง่าย และยังพอที่จะเปลี่ยนมือได้บ้าง

ข้อเสียของอาคารพาณิชย์

ความเป็นส่วนตัวน้อยมาก ๆ เนื่องจากใช้ผนังร่วมกันกับบ้านข้าง ๆ อีกทั้งพื้นที่ใช้สอยส่วนตัวมีน้อย
ราคาส่วนมากค่อนข้างสูงทำให้จับต้องได้ยากพอสมควร

เทคนิคการเลือกซื้ออาคารพาณิชย์

อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นว่าอาคารพาณิชย์เป็นอาคารใช้ประกอบกิจการพาณิชย์และธุรกิจต่าง ๆ เป็นหลัก ดังนั้นขั้นตอนการเลือกซื้อจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งสามารถกระทบต่อธุรกิจของเพื่อน ๆ ได้เลย เราจึงมีเทคนิคการเลือกซื้อมาฝากดังนี้

ทำเลดี มีผู้คนพลุกพล่าน
ด้วยลักษณะของอาคารพาณิชย์จะอยู่ติดกับถนน ดังนั้นทำเลดีทำให้ธุรกิจของเพื่อนมีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ เพราะที่ที่คนเยอะ พลุกพล่าน โดยเฉพาะแหล่งชุมชน คือโซนในการทำรายได้ชั้นดี ทำให้มีโอกาสในการขายที่มากขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมที่จะไปสำรวจด้วยว่าเวลาไหนที่คนเยอะ หรือเวลาไหนที่คนน้อย อีกทั้งหากเป็นทำเลที่คนเยอะแต่ติดสะพานข้ามแยกควรจะหลีกเลี่ยงไว้ เพราะนั่นจะทำให้เสี่ยงต่อการเวนคืน ทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้แน่นอน
จอดรถได้ง่าย
เรื่องที่จอดรถจัดว่าเป็นปัญหาใหญ่ของคนทำธุรกิจ ที่จะนำมาซึ่งผลกระทบรอบด้าน ซึ่งอาคารพาณิชย์เองก็มีข้อจำกัดเรื่องนี้กันมาก เนื่องจากอาคารพาณิชย์ถูกออกแบบมาให้สร้างติดถนนเสียเป็นส่วนใหญ่ หากทำเลของอาคารติดถนนใหญ่ โอกาสที่จะจอดรถแทบจะไม่มี หรือกรณีเป็นอาคารพาณิชย์ในชุมชน เพื่อน ๆ ก็ต้องวางแผนแล้วว่าจะให้ลูกค้าไปจอดรถที่ไหน ต้องมีแผนรองรับ
ตรวจสอบโครงสร้าง
การเลือกซื้ออาคารพาณิชย์ที่สำคัญคือเรื่องการตรวจสอบโครงสร้าง อย่างที่รู้กันว่าอาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่จะมีจำนวนชั้นตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป ดังนั้นหากคิดจะซื้อจะต้องตรวจสอบโครงสร้างและสภาพอาคาร เนื่องจากบางทีทำเลดี อยู่ย่านราคาแพง แต่สภาพภายในชำรุด ต้องมาปรับปรุงแก้ไขกันเยอะ ก็จะไม่คุ้มที่จะซื้อเช่นกัน
เพื่อนบ้านดี เกื้อหนุนกัน
ข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาระดับช้างของคนมีบ้าน ต้องบอกเลยว่าได้เพื่อนบ้านผิด คิดจนตัวตายแน่นอน ดังนั้นการเลือกซื้ออาคารพาณิชย์ ควรให้ความสนใจร้านใกล้เรือนเคียงบ้าง ซึ่งร้านใกล้เคียงจะเป็นแรงดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพื่อน ๆ อาจจะไปลองสำรวจดูก่อนก็ได้ ว่าอาคารย่านที่เล็งไว้ เขาเปิดขายอะไรกันบ้าง เป็นธุรกิจที่สามารถเกื้อหนุนกันได้ ก็จะช่วยเสริมกันเป็นอย่างดี
ลักษณะอาคารต้องเปิดโล่ง ไม่อยู่ในจุดอับ
สำหรับข้อดี ฟังดูเหมือนกับเราดูฮวงจุ้ยนั่นแหละค่ะ เดี๋ยวนี้การเลือกบ้านหรืออาคารพาณิชย์ก็ต้องดูฮวงจุ้ยที่เหมาะสมเช่นกัน ซึ่งตามหลักของฮวงจุ้ยนั้นไม่ควรเลือกตรงทางสามแพร่ง ไม่เลือกอาคารที่มีสิ่งสกปรก รวมไปถึงตำแหน่งอาคารจะต้องไม่เป็นจุดอับและไม่โดนอะไรมาบัง นั่นเป็นเพราะหากอาคารพาณิชย์อยู่ในจุดที่เปิดโล่ง มองเห็นง่าย โอกาสที่จะเข้าถึงลูกค้าย่อมมีได้ง่ายกว่านั่นเอง
ห้องหัวมุมคือทำเลทอง
สำหรับอาคารพาณิชย์แล้ว ห้องที่จัดว่าเป็นทำเลทองและดีที่สุดต้องยกให้ “ห้องหัวมุม” เลยค่ะ เพราะมีพื้นที่มากกว่าห้องโซนอื่น ๆ ที่สำคัญคือในความเป็นหัวมุมจะทำให้ร้านค้าของเพื่อน ๆ เหมือนมี showcase 2 ด้าน ที่สามารถมองเห็นได้ ในณะที่อาคารโซนอื่น ๆ จะเห็นเพียงด้านเดียว แต่การมีพื้นที่มากกว่าก็จะแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่าด้วยค่ะ

ทีนี้หากเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมีแพลนอยากจะทำธุรกิจและสนใจจะซื้ออาคารพาณิชย์ ก็อย่าลืมที่จะศึกษารายละเอียดพร้อมกับกฎหมายที่อยู่อาศัยและข้อจำกัดอื่น ๆ เพื่อที่จะได้ดำเนินธุรกิจได้อย่างไม่ติดขัดหรือเกิดปัญหาภายหลังนั่นเอง

ข้อควรรู้ก่อนซื้อ อาคารพาณิชย์ ตามกฎหมายที่อยู่อาศัย ที่คนซื้อบ้านควรรู้

Tags: