การซื้อบ้านก็ถือว่าเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ ที่เราต่างคาดหวังว่าจะได้บ้านที่ดีที่สุดด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึงไม่ได้มีแค่เพียงของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความปลอดภัยอีกด้วย แน่นอนว่าสิ่งที่จะมาการันตีความปลอดภัยของตัวบ้านและโครงสร้างบ้านได้ดีที่สุด ก็คือ “ประกันบ้าน” นี่ล่ะค่ะ ใครๆ ก็อยากจะมีบ้านดีๆ อยู่ไปอีกนานแสนนาน ดังนั้นเรามาดูกันค่ะว่าประกันบ้านคุ้มครองอะไรบ้าง

มารู้จักกับประกันบ้านกันก่อน

ประกันบ้าน หรือประกันโครงสร้างบ้าน คือหลักประกันความปลอดภัยและคุณภาพของสิ่งปลูกสร้างที่ได้ตกลงทำสัญญาซื้อขายกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตามหลักแล้วประกันบ้านจะมีการกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขตามกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อเราซื้อบ้าน โครงการบ้านจัดสรรจะต้องมีการรับประกันและบริการซ่อมแซมแก้ไขความชำรุดบกพร่องของตัวบ้านและสิ่งปลูกสร้างที่เกิดจากการก่อสร้างให้ หรือพูดง่ายๆ คือเป็นการรับประกันผลงานการสร้างบ้านนั่นเอง

ประกันบ้านคุ้มครองอะไรบ้าง

ความผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของประกันบ้าน

โดยปกติแล้ว ประกันบ้านจะมีการรับประกันตามช่วงเวลา 1 ปี และ 5 ปี ซึ่งจะมีรายละเอียดการซ่อมแซมในแต่ละจุดที่แตกต่างกันดังนี้

ประกันบ้าน 5 ปี

ประกันบ้านกรณีที่ 1

หลักๆ แล้ว สำหรับประกันบ้าน 5 ปี จะเป็น การรับประกันโครงสร้างบ้าน ภายหลังการโอนกรรมสิทธิ์ โดยโครงการจะรับประกันบ้านในส่วนต่างๆ ได้แก่ เสาเข็ม, ฐานราก, เสาคาน, พื้น, โครงหลังคา และผนังรับน้ำหนัก ซึ่งข้อควรระวังสำหรับเจ้าของบ้าน คือ หากเป็นความเสียหายที่เกิดจากการสร้างขึ้นใหม่หรือต่อเติมบ้าน ทางโครงการจะไม่รับผิดชอบความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น

ประกันบ้าน 1 ปี

ประกันบ้านกรณีที่ 2

สำหรับประกันบ้าน 1 ปี จะเป็น การรับประกันส่วนประกอบหรืออุปกรณ์ที่เป็นส่วนสำคัญของอาคาร โดยเราสามารถแยกตามพื้นที่การใช้งานของบ้าน ได้แก่ วัสดุภายนอกตัวบ้านและวัสดุภายในตัวบ้าน เช่น ประตู หน้าต่าง พื้น ฝ้า ซึ่งไม่รวมวัสดุที่ติดตั้งเพิ่มหลังการโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วเช่นเดียวกับประกัน 5 ปี ซึ่งโครงการจะรับผิดชอบรายละเอียดดังนี้

ประตูบ้าน รั้วบ้าน กำแพง และราวระเบียง

เจ้าของบ้านสามารถเรียกร้องประกันบ้านได้ในกรณีที่ประตูหน้าบ้านเปิด-ปิดไม่ได้ ล็อกไม่ได้ รางเลื่อนตกร่อง แนวกำแพงและรั้วบ้านเกิดรอยร้าว รวมทั้งความเสียหายอื่นๆ อันเกิดจากโครงสร้างของบ้านเท่านั้น ไม่ครอบคลุมกรณีงานสีหรือการเกิดสนิมเองตามธรรมชาติ

ผนังบ้านและพื้น

การเรียกร้องประกันบ้านในส่วนผนังบ้านและพื้น จะเป็นกรณีงานผิวผนัง ก่อ ฉาบ ไม่เรียบร้อย โดยผู้ซื้อต้องแจ้งกับทางโครงการล่วงหน้า 1-3 เดือน เพื่อเตรียมการซ่อมแซมให้ ทั้งนี้ การประกันไม่ครอบคลุมกรณีพื้นยืดตัว หดตัว หรือแตกยุบใดๆ

หลังคาและฝ้าเพดาน

ประกันบ้านเกิดขึ้นในกรณีเกิดความเสียหายจากงานมุงหลังคา โครงการจะรับประกันการรั่วซึมของน้ำฝนตามกระเบื้องมุงหลังคา และงานฝ้าเพดานของตัวบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงกรณีท่อน้ำรั่ว แตก หรือซึมด้วย

ประตูภายในและหน้าต่าง

ประตูภายในและหน้าต่างที่เกิดความเสียหายจากการยืดหดตัว โดยประกันบ้านจะให้เป็นการทาสีปรับแต่งให้เท่านั้น เกิดความชำรุดของการผลิตสินค้า และกรณีเกิดการรั่วซึมของน้ำฝน โดยช่างจะปิดรอยให้ดังกล่าวให้

บันไดบ้าน

การรับประกันบ้านในส่วนนี้ จะดูแลในส่วนที่เกิดการยืด หดตัวของไม้บันได ในส่วนของการแตกยุบตัวจะไม่ได้อยู่ในการรับประกัน โดยจะทำการปรับแต่งทาสีบันได ให้ใช้งานได้เท่านั้น

งานระบบไฟฟ้าและการประปา

ในส่วนประกันบ้านด้านงานระบบไฟฟ้าและการประปาถือว่าเป็นจุดที่สำคัญมาก ๆ ดังนั้นทางโครงการจึงจะรับประกันกรณีที่เกิดไฟฟ้ารั่ว ไฟซ็อต หรือไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนกรณีรับประกันประปานั้นครอบคลุมเฉพาะกรณีท่อน้ำรั่ว ซึม แตกเท่านั้น

ห้องน้ำ

การประกันบ้านอย่างต่อมา คือห้องน้ำ โครงการจะประกันในกรณีที่อุปกรณ์สุขภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานหรือมีตำหนิของสินค้าอยู่ก่อนแล้ว หรือชำรุดจากการติดตั้ง โดยผู้ซื้อต้องคุยรายละเอียดความรับผิดชอบกับทางโครงการให้ละเอียดว่าครอบคลุมเฉพาะค่าแรง หรือรวมทั้งค่าแรงและค่าอุปกรณ์

งานเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า

ในบางโครงการจะเป็นการบ้านแบบพร้อมอยู่ กล่าวคือบ้านที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า แค่เพียงลากกระเป๋าก็พร้อมอยู่ได้เลย ประกันบ้านในส่วนนี้นั้น การรับประกันจะเป็นส่วนเดียวกับเงื่อนไข ที่ระบุในเอกสารของสินค้าเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งระยะเวลาการการันตีจะมีตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึง 1 ปีเป็นอย่างน้อย

อะไรบ้างที่ประกันบ้านจะไม่คุ้มครอง

การต่อเติมบ้านหรือวัสดุที่เพิ่มเติมขึ้นมาภายหลังจากการมอบโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว
การเกิดภัยธรรมชาติ หรืออุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งความเสื่อมจากการใช้งาน
งานตกแต่งภายในและภายนอก
การทรุดตัว การแตกร้าวทั้งบนพื้นโรงจอดรถ พื้นลานซักล้าง และพื้นดินทั่วไป
การตกแต่งสวนและอุปกรณ์ทำสวนต่างๆ
การติดตั้งอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่เจ้าของบ้านหรือผู้อยู่อาศัยหาซื้อมาติดตั้งเอง

กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของประกันบ้าน

ทีนี้ใครที่กำลังจะซื้อบ้าน สิ่งสำคัญที่สุดควรสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการประกันบ้านของโครงการด้วยค่ะ ว่าประกันบ้านคุ้มครองอะไรบ้าง และเมื่อโอนมอบกรรมสิทธิ์กันแล้ว พยายามตรวจสอบความเรียบร้อยภายในและภายนอกบ้านอย่างถี่ถ้วน อย่ารอจนบ้านหมดประกันแล้วจึงติดต่อโครงการ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะต้องเป็นผู้รับภาระค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายตามมาอีกเพียบแน่นอนค่ะ

ประกันบ้าน โครงสร้างบ้าน มีไว้อุ่นใจ คุ้มครองอะไรบ้าง

Tags: