ในความแน่นอนคือความไม่แน่นอน กู้ร่วมซื้อบ้านกับคู่รัก พอถึงวันไหนที่ต้องแยกทางกันจะต้องทำอย่างไร เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายจบกันด้วยดีและไม่มีปัญหาในเรื่องการเงินตามมาทีหลัง และบ้านหลังนั้นต้องเป็นของใคร ใครต้องเป็นคนจ่าย

1. ถอดถอนชื่อผู้กู้ร่วม

ทั้งสองฝ่ายต้องตกลงกันแล้วว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะผ่อนบ้านหลังนี้ต่อต้องไปติดต่อเพื่อขอถอดชื่อผู้กู้ร่วมออกจากธนาคาร โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ

คู่รักที่จดทะเบียนสมรสกัน

ทั้งสองฝ่ายต้องนำเอกสารการจดทะเบียนหย่า และนำสัญญาจะซื้อจะขายระหว่างอดีตสามี ภรรยา เพื่อนำไปขอสินเชื่อใหม่สำหรับฝ่ายที่จะผ่อนต่อ และเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ หลังจากนั้นไปโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดิน ซึ่งค่าธรรมเนียมการโอน ค่าอากร และภาษีธุรกิจเฉพาะจะได้รับการยกเว้น เพราะเป็นการกู้ร่วมซื้อบ้านหลังจดทะเบียนสมรสแล้ว บ้านหลังนี้จึงถือเป็นสินสมรส

คู่รักกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส

ทั้งสองฝ่ายต้องตกลงกันว่าจะให้ใครเป็นคนถือกรรมสิทธิ์ต่อในฐานะผู้กู้คนเดียว และแจ้งขอถอดชื่อผู้กู้ร่วมอีกคนออก เนื่องจากการเลิกรากัน จากนั้นธนาคารจะประเมินความสามารถในการผ่อนชำระว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะผ่อนต่อคนเดียว หากไม่สามารถผ่อนต่อคนเดียวได้ จะต้องหาผู้กู้ร่วมใหม่ที่เป็นเครือญาติของผู้กู้

2. ตกลงหาทางออกร่วมกัน

ภายหลังที่คู่รักตกลงแยกย้ายจากสถานะคู่รักแล้ว แต่ยังมีภาระการกู้ร่วมผ่อนบ้านด้วยกันอยู่ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือการพูดคุยหาทางออกร่วมกันว่า จะทำอย่างไร บ้านหลังนี้จะเก็บไว้และผ่อนต่อหรือไม่ ฝ่ายไหนจะเป็นคนรับภาระผ่อนต่อไป หากมีฝ่ายที่อยากได้บ้านหลังนี้เก็บไว้ และต้องเป็นคนผ่อนต่อ ฝ่ายนั้นมีความสามารถในการผ่อนชำระต่อคนเดียวไหวหรือไม่ หากต่างฝ่าย ต่างไม่ต้องการเก็บบ้านหลังนี้ไว้ หรือไม่มีความสามารถผ่อนต่อคนเดียวได้ อาจต้องขายบ้าน และนำเงินที่ได้มาโปะหนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองฝ่ายตกลงหาทางออกร่วมกันอย่างไร

3. รีไฟแนนซ์บ้าน

การรีไฟแนนซ์ใหม่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีสำหรับกรณีที่เราขอถอดชื่อผู้กู้ร่วมไม่สำเร็จ เพราะธนาคารประเมินแล้วว่าความสามารถในการผ่อนคนเดียวอาจเป็นไปไม่ได้ การยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อกู้เงินจากธนาคารใหม่ จะช่วยนำไปปลดภาระจากธนาคารเดิม เปลี่ยนสัญญาจากผู้กู้ร่วมเป็นผู้กู้คนเดียว ช่วยลดภาระการผ่อนต่อเดือนให้น้อยลง มีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเดิม โดยจะต้องพิจารณารายได้ของผู้กู้ ภาระหนี้ต่อเดือนของผู้กู้ ประวัติเครดิตบูโร และอื่น ๆ ตามเกณฑ์ของธนาคารแต่ละแห่ง

4. ขายบ้านจบปัญหา

หากตกลงกันทั้งสองฝ่ายแล้วว่าจะไม่เก็บบ้านหลังนี้ไว้ การขายบ้านเพื่อจบปัญหาก็เป็นอีกนึงอย่างที่ตัดจบเพราะไม่ต้องเป็นภาระในการผ่อนต่อของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง การขายบ้านอาจต้องใช้เวลา และมีค่าใช้จ่ายต่างๆ กรณีการโอนกรรมสิทธิ์เมื่อขายบ้านได้แล้ว

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆ จาก : SCB

กู้ร่วมซื้อบ้านกับคู่รัก เมื่อเลิกลากันต้องทำอย่างไร ?

Tags: